
ราคาค่าตัวในการย้ายทีม ของนักเตะสมัยนี้ มีราคาที่มากกว่าสมัยก่อนมาก หนึ่งในหลักฐานที่ยืนยันถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดีคือการที่เจ้าของสถิติการย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงที่สุดในโลกคนปัจจุบันคือ เนย์มาร์ ที่ย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2017 ด้วยค่าตัวสูงถึง 222 ล้านยูโร (ประมาณ 7,992 ล้านบาท) ขณะที่ถ้าย้อนไปในปี 2009 คนที่เป็นเจ้าของสถิติโลกมีค่าตัวอยู่ที่ 94 ล้านยูโร (ประมาณ 3,384 ล้านบาท) โดยคนๆ นั้นก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ตอนนั้นย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด
ทั้งนี้ ถ้านักเตะคนที่ย้ายทีมมียี่ห้อ “อังกฤษ” แปะติดตัวอยู่แล้วล่ะก็ ค่าตัวของพวกเขาก็จะสูงยิ่งขึ้นไปอีก จนหลายครั้งมันก็ดูเหมือนว่าค่าตัวสูงเกินความเป็นจริง และสุดท้ายก็มีบางคนที่ไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมคู่ควรกับค่าตัวระดับนั้นได้
อารอน วาน-บิสซาก้า เป็นอีก 1 นักเตะชาวอังกฤษที่มีค่าตัวสูงระยับ หลังเชื่อกันว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมจ่ายเงินเป็นจำนวนรวมสูงถึง 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,050 ล้านบาท) เพื่อดึงแข้งวัย 21 ปีไปร่วมทัพ ซึ่งที่ผ่านมามันก็มีนักเตะดาวรุ่งชาวอังกฤษหลายคนที่ย้ายไปอยู่กับทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศด้วยค่าตัวสูงลิบ และวันนี้เราก็จะมาย้อนดูกันว่าสุดท้ายแล้วแข้งเหล่านั้นทำผลงานได้คุ้มค่าตัวรึเปล่า โดยเราจะนับเฉพาะนักเตะที่ย้ายทีมในตอนที่อายุไม่เกิน 23 ปีเท่านั้น เพื่อให้เข้าข่ายแข้งดาวรุ่ง ส่วนเรื่องค่าตัวก็จะนับเฉพาะคนที่มีราคาสูงกว่า 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,025 ล้านบาท) ขึ้นไป
– ลุค ชอว์ ย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ไป แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนอายุ 18 ปี : ค่าตัว 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,230 ล้านบาท)

ผลงานที่โดดเด่นของ ชอว์ ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมเสียเงินเป็นจำนวนมากกับการซื้อแบ็กซ้ายวัยรุ่นในช่วงซัมเมอร์ ปี 2014 ซึ่งนั่นก็ทำให้หลายคนออกมาตั้งคำถามกับการตัดสินใจครั้งนี้ของพวกเขา อย่างเช่น พอล สโคลส์ ตำนานมิดฟิลด์ของ “ปีศาจแดง” เอง
ทั้งนี้ ชอว์ เจอช่วงเวลาที่เลวร้ายสุดขีดในสีเสื้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะในฤดูกาล 2015-16 เขาได้รับบาดเจ็บถึงขั้นกระดูกขาร้าวทั้งสองข้าง จากจังหวะที่โดน เอคตอร์ โมเรโน่ ดาวเตะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เล่นงาน และพอกลับมาได้เขาก็มีสภาพความฟิตที่ไม่ดีเท่าไหร่จนโดน โชเซ่ มูรินโญ่ ตำหนิออกอากาศมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ชอว์ ก็ไม่ย่อท้อ และทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่งในฤดูกาล 2018-19 จนถึงขนาดได้รับการเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของทีมทั้งจากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมและของแฟนบอลในซีซั่นล่าสุด แน่นอนว่าฟอร์มของเขาอาจจะยังไม่ถึงขั้นระดับโลก แต่ตอนนี้มันก็มีแววแล้วว่าแข้งวัย 23 ปีจะไปได้สวยกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ถ้าเขายังรักษาสภาพความฟิตเอาไว้ได้
สรุป : อยู่ในระดับปานกลาง
– แอนดี้ แคร์โรลล์ ย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไป ลิเวอร์พูล ตอนอายุ 22 ปี : ค่าตัว 35 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,435 ล้านบาท)

ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มเงินก้อนโตดึง แคร์โรลล์ มาจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบสอง ช่วงเดือนมกราคม ปี 2011 ด้วยความหวังว่าเขาจะแทนที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกคนดังที่ย้ายไปอยู่กับ เชลซี ได้
น่าเศร้าที่มันไม่เป็นอย่างนั้น ตลอดช่วงเวลาในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล แคร์โรลล์ สามารถทำประตูในลีกได้เพียง 6 ลูก จากการลงเล่น 44 นัด จนสุดท้ายเขาก็ถูกปล่อยไปอยู่กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาล 2012-13 ก่อนที่ถูกขายขาดให้ “ขุนค้อน” ด้วยราคาราว 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 615 ล้านบาท)
สรุป : ไม่คุ้มค่าตัว
– จอห์น สโตนส์ ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน ไป แมนฯ ซิตี้ ตอนอายุ 22 ปี : ค่าตัว 47.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,947.5 ล้านบาท)

สโตนส์ ถือเป็นกองหลังรายแรกที่ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ยอมทุ่มเงินก้อนโตดึงไปร่วมทัพ หลังจากที่ดาวเตะชาวอังกฤษฉายแววโดดเด่นกับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่ง กวาร์ดิโอล่า ก็คาดหวังว่าเขาจะเป็นกำลังหลักในแนวรับให้ทีมไปอีกนาน
ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา สโตนส์ ยังมีจังหวะที่เล่นผิดพลาดอยู่บ้าง และทำให้แฟนๆ กังวลในบางจังหวะ แต่มันก็มีบางวันที่เขาท็อปฟอร์มเหมือนกัน ซึ่งในวันแบบนั้นเขาก็จะเป็นกำแพงเหล็กที่ใครก็ฝ่าไปได้ยากสุดๆ
สรุป : อยู่ในระดับปานกลาง
– ราฮีม สเตอร์ลิง ย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไป แมนฯ ซิตี้ ตอนอายุ 20 ปี : ค่าตัว 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,009 ล้านบาท)

สเตอร์ลิง สร้างความฮือฮาให้กับตลาดย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์ ปี 2015 ด้วยการเลือกที่จะย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไปอยู่กับ แมนฯ ซิตี้่ ซึ่งตอนนั้นหลายคนก็ให้ความเห็นว่าค่าตัว 49 ล้านปอนด์ของเขามันค่อนข้างสูงเกินไปสำหรับแข้งดาวรุ่งที่เพิ่งมีอายุแค่ 20 ปี
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เงินจำนวนดังกล่าวถือว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ หลังจากที่ สเตอร์ลิง โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมสุดๆ กับ แมนฯ ซิตี้ จนกลายเป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งของทีมแล้ว รวมถึงพาทีมคว้าแชมป์มาครองได้หลายรายการ และถ้าอนาคตเขาย้ายทีมแล้วล่ะก็ ค่าตัวของเขาก็น่าจะสูงกว่าที่ “เรือใบสีฟ้า” จ่ายไปเยอะพอตัว
สรุป : คุ้มค่าตัว
– ริโอ เฟอร์ดินานด์ ย้ายจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ไป แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนอายุ 23 ปี : ค่าตัว 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,230 ล้านบาท)

หลังจากที่เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด เปื่อยยุ่ยซะยิ่งกว่าทิชชู่เปียกน้ำ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตัดสินใจทุ่มทุนดึง เฟอร์ดินานด์ ไปร่วมทัพ หลังจากที่ เฟอร์ดินานด์ โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นกับ “ยูงทอง” ทั้งที่อายุยังน้อยพอตัว
สุดท้ายแล้วสายตาของ เฟอร์กูสัน ก็เฉียบคม เพราะว่า เฟอร์ดินานด์ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด แข็งแกร่งสุดๆ และปราการหลังชาวอังกฤษก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ไปครองแบบเป็นกอบเป็นกำ รวมถึงครองความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษได้อย่างต่อเนื่อง
สรุป : คุ้มค่าตัว
– เวย์น รูนี่ย์ ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน ไป แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนอายุ 18 ปี : ค่าตัว 27 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,107 ล้านบาท)

การเสียเงินถึง 27 ล้านปอนด์กับเจ้าหนูที่ยังมีอายุแค่ 18 ปีดูเป็นเรื่องที่บ้าบอสุดๆ และนั่นก็คือความคิดที่แฟนบอลของทีมอื่นๆ นอกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด มีต่อเรื่องที่ เฟอร์กูสัน ควักเงินก้อนโตเพื่อดึง รูนี่ย์ ไปร่วมทัพในปี 2004 ทั้งที่ดาวเตะชาวอังกฤษเพิ่งเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ เอฟเวอร์ตัน ได้เพียงแค่ 2 ฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเหล่า “เร้ด อาร์มี่” ที่ได้ยิ้มออกกับการลงทุนสุดเสี่ยงครั้งนั้น หลังจากที่ รูนี่ย์ ทำผลงานให้ทีมได้ยอดเยี่ยมหลายซีซั่น, พาทีมซิวแชมป์ไปครองได้มากมาย รวมถึงสุดท้ายก็ได้เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลจากการลงเล่นในทุกรายการของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย
สรุป : คุ้มค่าตัว
สนับสนุนโดย G Club 2020 คาสิโนออนไลน์ พนันบอลออนไลน์ ที่มาแรงที่สุด