
เกมตัดสินเข้ารอบ ศึกโคปาอเมริกา 2019 ระหว่าเจ้าภาพบราซิล พบกับปารากวัย นัดนี้เจ้าภาพเล่นเกมหนัก แต่ได้เปรียบช่วงต้นครึ่งหลัง จากใบแดงของปารากวัย แต่สุดท้ายทำอะไรกันไม่ได้เสมอในเวลา 0-0
ขุนพล ”เซเลเซา” ปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่มด้วยการถล่ม เปรู 5-0 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม เอ เท่ากับว่าไม่แพ้ใครมาตั้งแต่รอบ 8 ทีมฟุตบอลโลกเมื่อปีที่แล้ว
บราซิลมีปัญหาในแดนกลางเมื่อ คาเซมิโร่ กองกลางตัวรับคนสำคัญที่ติดโทษแบน ขณะที่แฟร์นานดินโญ่ มิดฟิลด์ตัวเก๋าสภาพร่างกายก็ไม่ฟิตเต็มร้อย ทำให้ ตีเต้ เทรนเนอร์แซมบ้า ต้องปรับใช้ อัลลัน จับคู่กับ อาร์ตูร์ ส่วนแนวรุก กาเบรียล เชซุส ได้โอกาสลงตัวจริง ประสานงานร่วมกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, เอแวร์ตอน และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
ด้านปารากวัย ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ในฐานะอันดับสามที่ดีที่สุดสองอันดับแรก เกมนี้เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ เน้นรับเต็มที่ จัดกองหลังลงประจำการ 5 ราย โดยหน้าเป้าทิ้ง เดร์ลิส กอนซาเลซ และมีมิเกล อัลมิรอน สนับสนุนเป็นตัวต่ำ
โอกาสแรกของเกมเป็นของบราซิล นาทีที่ 4 โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หลัดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษ แต่กาตีโต้ เฟร์นานเดซ นายด่านปารากวัย ยังเซฟเอาไว้ได้
นาทีต่อมา เอแวร์ตอน ซัดไกลระยะ 25 หลา บอลยังไปตรงตัวผู้รักษาประตู
น.29 ปารากวัยเกือบช็อคแฟนบอลเจ้าถิ่น เมื่อเดร์ลิส กอนซาเลซ ได้โอกาสซัดจ่อๆแต่อลีสซง ซูเปอร์เซฟปัดออกหลังไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ
ท้ายครึ่งแรก น.40 คูตินโญ่ กระชากบอลถึงเส้นหลังก่อนจะยิงเรียดแต่บอลก็ยังไปติดมือของกาตีโต้ เฟร์นานเดซ
จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0
กลับมาต่อในครึ่งหลัง น. 54 บราซิลมาได้ลูกจุดโทษ เมื่อโรแบร์โต้ ฟีร์โน่ เลื้อยบอลเข้ามาในเขตโทษก่อนจะถูกเตะล้มลง ผู้ติดสินไม่รอช้าชี้เป็นลูกฟาวล์ทันที อย่างไรก็ดีผู้ตัดสินขอดูวีเออาร์ แล้วกลับคำเป็นเพียงลูกฟรีคิกนอกเขต แล้วกลับมาให้ใบแดงแก่ฟาเบียน บัลบูเอน่า ที่ไปทำฟาวล์เป็นตัวสุดท้าย
บราซิลโหมบุกหนัก น.69 เอแวร์ตอน พลิ้วแนวรับหลบมาถึงเส้นหลังก่อนจะตบมาตรงกลางให้อาร์ตูร์ ที่รออยู่แถวสองแล้ววิ่งเข้ามาซัดเต็มข้อแต่กาตีโต้ เฟร์นานเดซ ยังทุบทิ้งเอาไว้ได้
น.74 บราซิลพลาดขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ เอแวร์ตอน ครอสบอลมาที่หน้าประตู โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โหม่งตั้งให้กับกาเบรียล เชซุส วอลเล่ย์ด้วยขวาโล่งๆแต่บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไป
น.90 วิลเลี่ยนทำชิ่งกับคูตินโญ่ ก่อนจะซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งผ่านมือ เฟร์นานเดซไปแล้วแต่บอลยังไปโดนเสาเด้งออกมา
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บราซิลเจาะเท่าไหร่ก็เจาะไม่เข้า จบเกมเสมอกัน 0-0 ต้องไปตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ และเป็นบราซิลยิงได้แม่นยำกว่าเอาชนะไปได้ 4-3 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นทีมแรก
ริชาร์ด ออร์ติซ(ปารากวัย) ไม่เข้า
วิลเลี่ยน(เชลซี) เข้า
มิเกล อัลมิรอน(ปารากวัย) เข้า
มาร์กินญอส(บราซิล) เข้า
บรูโน่ บัลเดซ(ปารากวัย) เข้า
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่(บราซิล) เข้า
ฮวน โรดริโก้ โรฮาส(ปารากวัย) เข้า
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (บราซิล) ไม่เข้า
เดร์ลิส กอนซาเลซ(ปารากวัย) ไม่เข้า
กาเบรียล เชซุส(บราซิล) เข้า

สนับสนุนโดย G Club 2020 คาสิโนออนไลน์ พนันบอลออนไลน์ ที่มาแรงที่สุด